เผยวิธียืดอายุ รองเท้าผ้าใบคู่ใจ ให้ดูใหม่ ทนทาน พร้อมลุยทุกฤดู
รองเท้าผ้าใบ หนึ่งในไอเทมติดตัวที่ช่วยพาสองเท้าของเรา จะไปทำงาน หรือจะเดินเที่ยวก็เข้ากันได้ดี ติดตัวไปเกือบทุกหนแห่งกันเลยทีเดียว คุณค่าทางจิตใจในแต่ละคนที่มีต่อรองเท้าคู่โปรด ก็แตกต่างกันไป อยากอยู่ไปนาน ๆ, ใช้ให้คุ้มค่ากับคุณภาพ และใส่เพื่อแสดงตัวตนเสริมบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะคุณค่าทางจิตใจจะแบบไหนหากเรารู้วิธีดูแลรักษาให้อยู่คู่คุณค่าที่เราปรารถนาก็คงดีไม่ใช่น้อย มาดูกันว่ามีวิธีไหนอย่างไรกัน
เตรียมรองเท้าให้พร้อมทั้งก่อน และหลังใส่
1.ใช้สเปรย์กันน้ำ แนะนำให้ฉีด 3 รอบ โดยในแต่ละรอบเมื่อฉีดแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ให้น้ำยานั้นแห้งสนิท
ซึ่งนั่นหมายถึงตัวน้ำยาได้เกาะกับผิวของรองเท้าเรียบร้อยแล้ว และเริ่มฉีดรอบต่อไปจนครบ 3 ครั้ง เพียงเท่านี้
รองเท้าของเราก็จะเลอะจากคราบน้ำที่สกปรกได้น้อยลง และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
2.อย่าลืมใช้ที่ดันทรงรองเท้า (Shoe Tree) เสมอ จะช่วยรักษาทรงของรองเท้าให้อยู่สวยงาม และดูดีอยู่เสมอ
3.ใช้ที่ช้อนรองเท้า (Shoehorn) นอกจากจะช่วยถนอมส้นของรองเท้าแล้ว ยังดีต่อสุขภาพเท้าอีกด้วย แถมยังไม่ต้องก้มบ่อย สะดวกสบายขึ้น
4.ซื้อ 2 คู่ไปเลย หากชอบใส่ และชอบเก็บ ซื้อ 2 คู่กันไปเลยอาจจะเก็บไว้ 1 คู่ หรือใส่สลับกัน เพื่อถนอมสภาพรองเท้าให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด
5.พกถุงคลุมรองเท้าแบบกันน้ำไปด้วยเสมอ แนะนำเป็นแบบบูท ที่จะคลุมยาวขึ้นมาถึงประมาณหัวเข่าก็จะช่วยหลีกเลี่ยงฝน หรือแอ่งน้ำเมื่อต้องเดินผ่านได้ดี
เมื่อรองเท้าเปียก
1.ขยำกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นก้อน ๆ จากนั้นใส่เข้าไปในรองเท้า หากยังไม่แห้ง ทำใหม่อีกรอบจนกว่าจะแห้ง
2.อย่าพยายามทำให้รองเท้าแห้งด้วยการใช้ความร้อน อาจทำให้วัสดุบางอย่างหดตัว หรือเสียหายได้
3.เมื่อรองเท้าแห้ง และสะอาดแล้วอย่าลืมฉีดสเปรย์กันน้ำ
ต้องซักรองเท้า
1.ชะล้าง หรือนำคลาบโคลน หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกให้ได้มากที่สุดก่อน
2.โรยผงเบ้คกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะลงบนรองเท้าแต่ละข้างทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นค่อยเอาออกในตอนเช้า
3.นำเชือกรองเท้าออก แล้วเอารองใส่ปลอกหมอน หรือถุงซักผ้า ร่วมกับผ้าขนหนู4-5 ผืน (ป้องกันรองเท้ากระแทกกับตัวเครื่องซักผ้า) ใส่เครื่องซักผ้า หรือจะซักด้วยมือตามปกติได้เลย
4.ตากทิ้งไว้ให้แห้งในที่ลมผ่านสะดวก และแดดส่องถึง พยายามอย่าทำให้แห้งด้วยอุปกรณ์อื่นใด ที่สร้างความร้อน อาจส่งผลทำให้รองเท้าเสียหายได้
5.ใช้แปรงสีฟันร่วมกับน้ำยาซักผ้าทำความสะอาดในจุดที่คราบเกาะแน่น
6.หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอก เพราะอาจจะติดอยู่ตามซอก หรือภายในรองเท้าได้