รู้ไหมในกระเป๋าสตางค์เรามีแบคทีเรียซ่อนอยู่ คุณสาว ๆ ทราบหรือไม่คะว่าเจ้าเชื้อแบคทีเรียเนี่ย สามารถสะสมได้ทุกที่เลย และแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่หลาย ๆ คนคาดไม่ถึงก็คือ กระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพายนี่เองค่ะ แล้วเพื่อน ๆ คงสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมกระเป๋าแสนรักของเราถึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างไร แอดมินมีคำตอบค่ะ
การที่กระเป๋าสะพายและกระเป๋าสตางค์รวมถึงกระเป๋าเป้ของเรา เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้นั่น เพราะสาว ๆ อย่างเรา ๆ ใช้กระเป๋าในการเก็บข้าวของต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แป้งพัฟ ลิปสติก โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น โดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าภายในกระเป๋าสุดที่รักของเรานั้น ได้กลายเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรคเอาไว้แล้ว จากการสะพายกระเป๋าไปตามสถานที่ต่าง ๆ และการนำกระเป๋าของไปในห้องน้ำสาธารณะต่าง ๆ โดยมีการวิจัยพบว่าก้นกระเป๋าของเรานั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคมากกว่าหมื่นตัวเลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น กระเป๋าสตางค์เองก็เป็นตัวการสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อันตรายไม่แพ้กัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เจ้าเชื้อโรคเหล่านี้ จะสะสมอยู่ในเงินที่เราเก็บไว้จนเต็มกระเป๋า ด้วยธนบัตรและเหรียญต่าง ๆ ได้ถูกส่งผ่านมือกันมาแบบมือต่อมือ จึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่คนละเลยมากที่สุดอีกด้วย
โดยได้มีผลศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ พบว่า ในธนบัตร 1 ใบ จะมีเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่โดยเฉลี่ย 26,000 ตัว ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำอีกด้วยค่ะ ซึ่งเชื้อโรคส่วนใหญ่ที่มาจากเงินล้วนเป็นเชื้อโรคอันตรายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Staphylococcus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาแดง และยังมีเชื้อ Salmonella และ E.coli ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษและท้องเสียนั่นเองค่ะ
แต่เชื้อโรคเหล่านี้ที่ว่าร้ายแรงมากแล้ว ก็ยังไม่อันตรายเท่ากับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังแพร่ระบาดและเป็นข่าวไปทั่วโลกอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเพื่อน ๆ คงจะเห็นจากข่าวต่าง ๆ แล้วว่า เจ้าโรคนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ถึงแม้คนคนนั้นจะยังไม่แสดงอาการป่วยออกมาก็ตาม และมีระยะเวลาในการฟักตัวนานถึง 14 วัน อีกด้วย แต่ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีรับมือกับเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 นี้ซะทีเดียวนะคะ โดยเพื่อน ๆ สามารถป้องกันตนเองได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือพื้นที่ชุมชน
- ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ
- หมั่นล้างมือให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วย ไอ จาม มีน้ำมูก
- ไม่สัมผัสกับสัตว์ที่ป่วยหรือตาย
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
- ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลังกลับจากต่างประเทศภายใน 14 วันหากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
นอกจากยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถป้องกันตัวเองได้จากทั้งไวรัสโคโรน่า 2019 และเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในกระเป๋าของเรานั่นก็คือ เพื่อน ๆ ควรมั่นทำความสะอาดกระเป๋าบ่อย ๆ อย่างการทำสปากระเป๋า ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถพาน้องไปทำสปากระเป๋าได้ที่ร้านรับทำสปากระเป๋าก็ได้ หรือจะทำสปากระเป๋าแบบ D.I.Y. อย่างเซ็ตสปากระเป๋าจาก LUXURYBAGS SPA
โดยเซ็ตสปากระเป๋านี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถทำความสะอาดกระเป๋าได้ง่าย ๆ ค่ะ เพียงใช้โฟมทำความสะอาดกระเป๋า Dirty Stop ฉีดทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมแสนรักของเราไปก่อน 1 รอบ ซึ่งเจ้าโฟมทำความสะอาดกระเป๋า Dirty Stop นี้ไม่เพียงช่วยกำจัดสิ่งสกปรกเท่านั้น แต่ยังสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ ด้วยเป็นสูตรแอนตี้แบคทีเรีย และด้วยสารสกัด organic ทำจากเปลือกส้มจึงทำให้มีกลิ่นหอมสดชื้นมาก ๆ ค่ะ
หลังจากทำความสะอาดกระเป๋าด้วย Dirty Stop แล้ว ให้เพื่อน ๆ ใช้ MILK LOTION ครีมน้ำนมมาบำรุงหนังของกระเป๋า ซึ่งครีมน้ำนมเป็นตัวที่ไว้ใช้ต่อจาก dirty stop จะช่วยกำจัดคราบที่เหลือที่ยังออกไม่หมด พร้อมบำรุงหนังไปในตัว เนื่องจากสูตรนี้จะผสม oil สำหรับหนัง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังค่ะ
ส่วนในขั้นตอนสุดท้ายของการทำสปากระเป๋า คือใช้ Water Stop หรือสเปรย์กันน้ำ nano 100% ซึ่งจะช่วยปกป้องกระเป๋าลูกรักของเราจากสิ่งสกปรก คราบน้ำต่าง ๆ เช่น โคลน อาหาร ทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันการดูดสีได้อีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ 3 ขั้นตอนทำสปากระเป๋า D.I.Y.ง่าย ๆ ที่แอดมินได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ไม่เพียงทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมแสนรักของเรากลับมาสวยเหมือนใหม่เท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในกระเป๋าของเราได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.amarinbabyandkids.com